ยินดีต้อนรับสู่บล็อกของ เด็กหญิงอัจฉรียา ลาปีอี ม.2/2 เลขที่ 32 โรงเรียนพิมานพิทยาสรรค์จังหวัดสตูล ค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2558

5 อาชีพที่มาแรง


   1. NUCLEAR MEDICINE TECHNOLOGIST
นักเทคนิคนิวเคลียร์การแพทย์ เหมาะกับคนที่มีความสนใจด้านการแพทย์ แต่ไม่จำเป็นต้องจบแพทยศาสตร์โดยตรงค่ะ เพราะรายละเอียดของงานนี้คือการดูแลอุปกรณ์พิเศษทางการแพทย์ เช่น เครื่องเอ็กซเรย์ด้วยคอมพิวเตอร์ (CT) เครื่องตรวจวินิจฉัยโรคด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
คุณสมบัติ: มนุษยสัมพันธ์ดีเพราะต้องคอยให้บริการแก่ผู้ที่มาตรวจโรค ละเอียดรอบคอบและใส่ใจทุกรายละเอียด มีทักษะในการทำความเข้าใจศัพท์ทางวิชาการที่เกี่ยวกับอุปกรณ์ต่างๆ เพราะหากผิดพลาดเพียงนิดเดียวก็จะกระทบต่อผลการวินิจฉัยเป็นอย่างมาก ถนัดวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์
ทำไมงานนี้จึงมาแรง:สถานบริการทางการแพทย์หลายแห่งนิยมนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในการตรวจวินิจฉัยมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ
  • รายได้เฉลี่ยต่อปี: $71,120 ประมาณ 2,200,000 บาท
  • คาดว่าภายในปี 2022 จะเติบโตขึ้นอีก 20%
  • ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาขาวิชานี้ได้ที่ Society of Nuclear Medicine and Molecular Imaging (SNMMI)

   2. MEDICAL EQUIPMENT REPAIRER

นักซ่อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ หากคุณมีทักษะด้านการซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อาชีพนี้ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ไม่เลวทีเดียว เพราะอุปกรณ์การแพทย์ส่วนใหญ่ค่อนข้างซับซ้อนและราคาสูงลิ่ว เมื่อเกิดความขัดข้องสถานพยาบาลจึงมักจะซ่อมแซมมากกว่าซื้อใหม่
คุณสมบัติ:เชี่ยวชาญด้านเทคนิค มีความรู้ด้านเทคโนโลยีอุปกรณ์การแพทย์ หรือวิศวกรรมชีวการแพทย์ ชอบแก้ปัญหา มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์
ทำไมงานนี้จึงมาแรง: ทุกวันนี้คนปัจจุบันใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น สถานพยาบาลต่างๆ จึงขยายงานมากขึ้นเพื่อรองรับเช่นกัน
  • รายได้เฉลี่ยต่อปี: $44,180 ประมาณ 1,400,000 บาท
  • คาดว่าภายในปี 2022 จะเติบโตขึ้นอีก 30%
  • ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาขาวิชานี้ได้ที่ Biomedical Equipment Technician (BMET)

   3. DIGITAL RISK OFFICER

เจ้าหน้าที่ประเมินความเสี่ยงทางดิจิตอล ทำหน้าที่ติดตาม ดูแล และป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นทางดิจิตอล เช่น ป้องกันการถูกแฮ็คข้อมูล ป้องกันไม่ให้ข้อมูลรั่วไหล และออกแบบระบบความปลอดภัยทางดิจิตอลให้มีประสิทธิภาพ
คุณสมบัติ:เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี มีทักษะในการคิดวิเคราะห์ดีเยี่ยม สามารถนำทักษะการแก้ปัญหามาประยุกต์ใช้กับงานได้ มีไหวพริบเท่า รู้ทันเหล่าอาชญากรไซเบอร์
ทำไมงานนี้จึงมาแรง: หากใครติดตามข่าวสารวงการไอที คงยังจำข่าวบริษัท Sony Pictures ค่ายหนังชั้นนำของฮอลลีวูดถูกจารกรรมข้อมูลครั้งใหญ่เมื่อปลายปีที่ผ่านมาได้ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาล ทุกวันนี้บริษัทใหญ่ๆ ทั่วโลกจึงตื่นตัวกับการเก็บรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเป็นอย่างยิ่ง
  • รายได้เฉลี่ยต่อปี: $153,602 ประมาณ 4,900,000 บาท (สำหรับเจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้า)
  • การเติบโต: Gartner บริษัทวิจัยและให้คำแนะนำด้าน IT ในสหรัฐอเมริกาประเมินว่า ภายในปี 2017 หนึ่งในสามของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีแผนกดิจิตอล จะว่าจ้างเจ้าหน้าที่ประเมินความเสี่ยงทางดิจิตอล
  • ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาขาวิชานี้ได้ที่ risk assessment training program 

   4. HEALTH-AND-WELLNESS EDUCATOR

นักการศึกษาด้านสุขภาพและสุขภาวะ เหมาะสำหรับคนที่สนใจด้านการดูแลสุขภาพและโภชนาการ เพราะงานจะเกี่ยวข้องกับการวางแผนกลยุทธ์ให้คนทั่วไปหันมาใส่ใจกับการดูแลสุขภาพ หรือบางคนอาจทำงานในองค์กรใหญ่ๆ ที่มีนโยบายส่งเสริมให้พนักงานมีสุขภาพดี
คุณสมบัติ:มีบุคลิกภาพเป็นมิตร ดูสุขภาพดีน่าเชื่อถือ เชี่ยวชาญทักษะด้านการสื่อสาร สามารถกระตุ้นให้คนเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้
ทำไมงานนี้จึงมาแรง: หลายบริษัทเริ่มหันมาให้ความใส่ใจกับการดูแลสุขภาพพนักงาน เพราะนอกจากจะประหยัดค่าใช้ในการรักษาพยาบาลแล้ว การแสดงความใส่ใจยังเป็นแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้พนักงานอยากอยู่กับบริษัทไปนานๆ อีกด้วย โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานรุ่นใหม่ที่มักเปลี่ยนงานบ่อย
  • รายได้เฉลี่ยต่อปี: $62,280 ประมาณ 1,900,000 บาท
  • คาดว่าภายในปี 2022 จะเติบโตขึ้นอีก 21%
  • ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาขาวิชานี้ได้ที่ National Commission for Health Education Credentialing

   5. INDUSTRIAL-ORGANIZATIONAL PSYCHOLOGIST

นักจิตวิทยาอุตสาหกรรมองค์กร มีหน้าที่วัดประสิทธิภาพและปรับปรุงการทำงานขององค์กร โดยจัดการฝึกอบรมและหาวิธีสร้างความพึงพอใจให้แก่พนักงาน รวมถึงวางแผนการคัดสรรบุคลากรใหม่ๆ เข้ามาในองค์กร และพัฒนานโยบายด้านสุขภาพและความปลอดภัยด้วย
คุณสมบัติ:มีทักษะในการประเมิน เข้าใจภาพรวมการจัดการองค์กร ชอบปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ใจเย็น มีความสามารถในการสื่อสาร
ทำไมงานนี้จึงมาแรง:อย่างที่บอกไปในหัวข้อที่แล้วว่าพนักงานรุ่นใหม่มักเปลี่ยนงานบ่อย บริษัทจึงต้องหันมาให้ความสำคัญมากขึ้นกับการหาวิธีจูงใจให้พนักงานอยู่กับบริษัทไปนานๆ โดยเฉพาะคนเก่งที่มีความสามารถสูง ซึ่งมักมองหาโอกาสสร้างกิจการของตัวเองมากกว่าทำงานเป็นลูกจ้าง

7 อาชีพในยุคที่การสื่อสารมีความสะดวก

  ในยุคที่การสื่อสารมีความสะดวกอย่างมาก อีกทั้งช่องทางหรือสังคมออนไลน์มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย อุปกรณ์พกพาสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา ทำให้มีอาชีพใหม่เกิดขึ้น อาชีพที่หลายคนมองผิวเผินอาจจะดูเหมือนว่าคนเหล่านั้นไม่ได้ทำงาน แต่กำลังนั่งเล่นคอมพิวเตอร์ธรรมดาๆ เท่านั้น แต่จริงๆ แล้วการนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวันที่เห็นนั้น อาจเป็นอาชีพที่ทำเงินให้กับบุคคลดังกล่าวอยู่ก็เป็นได้ ซึ่งนั่นถือว่าเป็นอาชีพใหม่ในสายไอที ! ที่กำลังฮิต และทำเงินในตอนนี้ มีอาชีพอะไรบ้าง เราไปทำความรู้จักกับอาชีพเหล่านี้กันดีกว่า

1.Blogger เป็นนักเขียนบทความตามเว็บไซต์ต่างๆ เป็นการเขียนในลักษณะของการรีวิวสินค้าหรือบริการในสิ่งที่ตนชอบ สนใจ หรือมีความถนัด แล้วแชร์บทความดังกล่าวนั้นผ่านช่องทางออนไลน์โดยอาจจะเป็นเว็บไซต์หรือบล็อค รายได้ของ blogger มาจากการที่มีคนติดตามข้อมูล เมื่อมีผู้ติดตามในระดับหนึ่ง blogger สามารถที่จะขายโฆษณาในเว็บไซต์หรือบล็อคของตนได้ หรือรายได้ในอีกลักษณะหนึ่งคือ การที่มีเจ้าของสินค้ามาจ้างให้ blogger เขียนรีวิว และอาจจะทำคลิปวิดีโอแนะนำสินค้าและบริการ YouTube ให้


2.รับจ้าง Post ตามเว็บต่างๆ เป็นอาชีพที่รับจ้างโพสต์โฆษณาประชาสัมพันธ์ข้อมูลต่างๆ ตามเว็บไซต์หรือพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับสินค้า บริการ หรือข้อมูลที่มีผู้จ้างให้ทำการโพสต์ โดยหวังผลในเรื่องของการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมาย การรับจ้างโพสต์จะมีรายได้จากการรับจ้างโพสต์เป็นรายครั้งตามแต่ตกลงกัน การโพสต์ในลักษณะนี้หลายคนคงมีโอกาสได้พบเห็นบ่อยๆ และอาจจะรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร เพราะบางคนมีการโพสต์มากเกินไปจนทำให้ผู้อื่นหรือเจ้าของพื้นที่ที่ได้รับข้อมูลเกิดความรำคาญ

3.Online Order Confirmation เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่ามีอาชีพนี้ด้วย าอชีพนี้ทำหน้าที่ตรวจสอบการสั่งซื้อและรับออร์เดอร์แทนเจ้าของสินค้าที่ขายสินค้าผ่านออนไลน์ โดยมีการสร้างช่องทางในการขายสินค้าไว้หลายแห่งทั้งเว็บไซต์ LINE Facebook และอื่นๆ จนไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบออร์เดอร์ได้อย่างทั่วถึง ทำให้เกิดอาชีพในการทำหน้าที่รับออร์เดอร์หรือคอนเฟิร์มออร์เดอร์ขึ้นมานั่นเอง หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ช่วยเจ้าของร้านรับออร์เดอร์จากลูกค้านั่นเอง

4.Social Media Content เป็นผู้เขียนบทความให้กับบริษัท ห้างร้าน สินค้า และบริการต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นบทความที่ให้ความรู้บทความที่เป้นประโยชน์กับผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมายของสินค้าและบริการ และอาจมีการให้ข้อมูลสินค้าบ้างตามความเหมาะสมโดยไม่ให้ผู้บริโภครู้สึกว่าเป็นบทความเพื่อการขายสินค้ามากเกินไป อีกวัตถุประสงค์หนึ่งของการเขียนบทความของ Social Media Content คือ เพื่อหวังผลทางด้าน SEO ดังนั้นผู้ทำหน้าที่นี้ต้องมีทั้งความรู้ในสิ่งที่เขียน ทักษะในการเขียนที่ดี และเข้าใจในเรื่องของ SEO ไม่น้อยก็มาก

5.Social Media Marketing อาชีพนี้ไม่เน้นเรื่องของบทความ เน้นในเรื่องของการทำการตลาดเท่านั้น อาจจะเป็นการรีวิวให้ข้อมูลสินค้าโดยตรง อาจจะอัปเดทข้อมูลผ่านสังคมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง หรือแชร์คอนเทนต์ที่น่าสนใจผ่าน YouTube ก็ตาม เรียกว่าทำอย่างไรก็ได้ให้กลุ่มเป้าหมายสนใจและสั่งซื้อสินค้า

6.Infographics Designer สำหรับ Infographics เป็นสื่ออย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันเนื่องจากสามารถทำความเข้าใจได้ง่ายและสะดวกต่อการแชร์ ผู้ที่ทำงานในลักษณะนี้ก็คือ ผู้ที่มีความสามารถทางด้านกราฟิคประกอบกับสามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลได้ เพราะต้องย่อยข้อมูลที่ยืดยาวให้มีความกระชับและถูกต้อง


7.Net Idol เป็นผู้ที่พยายามสร้างตัวให้มีคาร์แร็คเตอร์โดดเด่นและเป็นที่สนใจในโลกออนไลน์ หากประสบความสำเร็จจนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง แม้แต่กิจกรรมในชีวิตประจำวันที่ดูเหมือนว่าไม่ได้ทำอะไร แม้แต่การกิน การเที่ยว อริยาบทต่างๆ ก็สามารถทำเงินได้ โดยรายได้จะมาจากการที่สินค้าต่างๆ จ้างให้เป็นพรีเซนเตอร์ โดยอาจจะใช้สินค้าและบริการดังกล่าวและแชร์ให้ผู้ที่ติดตาม Net Idol ผู้นั้นได้เห็น ซึ่งอาจจะนำไปสู่การใช้สินค้าตาม Net Idol คนนั้น

8.Mobile App Developer คล้ายๆ กับอาชีพโปรแกรมเมอร์ แต่เป็นโปรแกรมเมอร์รุ่นใหม่ที่เขียนโปรแกรมแอปพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์พกพายุคใหม่อย่างสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต

ธุรกิจน่าสนใจปี 2558 และอนาคตมีโอกาสรุ่ง

1. ธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุ

ธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุ
จากข้อมูลสถิติของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าอัตราผู้สูงอายุในไทยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นสินค้าเกี่ยวกับผู้สูงอายุจึงมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งสถานพยาบาลต่างๆก็จะมีการเพิ่มจำนวนมากขึ้นด้วย
สินค้าและบริการที่กลุ่มเป้าหมายเป็นผู้สูงอายุ จึงเป็นธุรกิจที่น่าสนใจมาก ถือเป็นอันดับต้นๆในขณะนี้ นึกออกหรือยังว่า สินค้าที่ผู้สูงอายุจำเป็นต้องใช้ หรืออยากจะใช้มีอะไรบ้าง?????

2. ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ และความงาม

ธุรกิจสุขภาพและความงาม
เนื่องจากปัจจุบันผู้คนทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น หากดูข้อมูลเชิงสถิติจากกระทรวงพานิชย์แล้วจะพบว่า ยอดขายสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพ ความงาม อาหารเสริมต่างๆ ในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ไทยยังเป็นทั้งแหล่งผลิตและนำเข้าสินค้าสุขภาพที่ได้มาตรฐานและมีความเจริญด้านสาธารณสุขในระดับแนวหน้าของภูมิภาคอาเซียน ดังนั้นโอกาสที่จะขยายตลาดออกไปยังต่างประเทศจะทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้นเมื่อเข้าสู่ AEC (ความจริงมีผู้ประกอบการหลายรายลงมือลุยตลาดประเทศเพื่อนบ้านเราไปตั้งนานแล้ว) สินค้าด้านสุขภาพและความงามของไทยเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศใน AEC รวมทั้งลูกค้าชาวจีนด้วย นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย พร้อมกับต้องการที่จะมาใช้บริการทางด้านสุขภาพและความงามไปในตัว

3. ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

ธุรกิจด้านการท่องเที่ยว
“การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health Tourism) เป็นการเดินทางท่องเที่ยวที่พ่วงกิจกรรมด้านสุขภาพไว้ด้วย การท่องเที่ยวในรูปแบบนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามกระแสการเอาใจใส่ดูแลด้านสุขภาพ ที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน และหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียรวมทั้งประเทศไทย ต่างให้การส่งเสริมการขยายตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สำหรับประเทศไทยการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพนับเป็นช่องทางสำคัญที่สามารถเพิ่มพูนรายได้จำนวนมากเข้าประเทศ และมีโอกาสที่จะขยายตลาดรวมทั้งการลงทุนได้อย่างกว้างขวาง เมื่อมีการเปิดเสรีภาคบริการของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ทั้งนี้โดยอาศัยความได้เปรียบด้านค่าใช้จ่ายในบริการทางการแพทย์ที่ถูกกว่า ด้วยมาตรฐานการรักษาในระดับสากล และความพร้อมในด้านทรัพยากรการท่องเที่ยว รวมทั้งบริการรองรับด้านการท่องเที่ยว

4. ธุรกิจอาหารราคามหาชน

ธุรกิจอาหาร
เนื่องจากเศรษฐกิจและสังคมเมืองที่มีอัตรการเติบโตขึ้นต่อเนื่อง วิถีชีวิตของคนเมืองที่ต้องรีบเร่งไปทำงาน การจราจรติดขัด ทำให้เวลาส่วนตัวน้อยลง อาหารที่ราคาถูกคุ้มค่า อาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน เหมาะสำหรับคนทำงานประจำ จึงเป็นธุรกิจน่านสนใจในปี 2558 และในอนาคต สังเกตได้จากร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 มีอาหารสำเร็จรูป นำมาอุ่นในเตาไมโครเวฟพร้อมทานออกมาขายเป็นจำนวนมากและขายดีด้วย อีกทั้งต้นทุนในการเข้าสู่ธุรกิจอาหารยังต่ำ จึงยิ่งน่าสนใจสำหรับผู้มีทุนน้อย

5. ธุรกิจแฟรนไชส์

ธุรกิจแฟรนไชส์
การเลือกลงทุนทำธุรกิจกับแฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียงดีอยู่แล้ว ช่วยย่นเวลาในการบุกเบิกตลาดได้ เป็นธุรกิจที่น่าสนใจลงทุน หากแฟรนไชส์นั้นๆ มีระบบการจัดการที่ดี สามารถสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภคจดจำและเชื่อมั่นได้ ไปที่ไหนก็พบเจอสินค้า สามารถซื้อสินค้าและบริการนั้นได้ เกิดความเคยชินกับสินค้าและบริการแล้ว ผู้ร่วมธุรกิจเมื่อซื้อแฟรนไชส์มาแล้วจึงสามารถขายสินค้าและบริการได้ทันที แม้บางธุรกิจอาจจะกำไรน้อยกว่าทำเองแต่โอกาสอยู่รอดก็มีมากกว่า แต่ทั้งนี้ต้องเลือกลงทุนกับแฟรนไชส์ที่ดีเท่านั้น ต้องศึกษาอย่างระเอียดรอบคอบก่อนลงทุน

6. ธุรกิจการศึกษา

ธุรกิจการศึกษา
เป็นอีกธุรกิจที่น่าลงทุนในปี 2558 และอนาคตที่จะเปิดเออีซี เพราะเมื่อมีแรงงานที่เปิดเสรีมากขึ้น การแข่งขันมากขึ้น ดังนั้นแล้วการศึกษาจึงสำคัญอย่างมาก ดังนั้นแล้วธุรกิจการศึกษาจึงต้องมีการแข่งขันและเป็นที่ต้องการของผู้คนที่ต้องการส่งบุตรหลานให้เรียนเพื่อสร้างโอกาสของตัวเองให้สูงขึ้น ธุรกิจด้านการศึกษาจึงน่าสนใจทีเดียว

7. ธุรกิจรีไซเคิลขยะ

ธุรกิจรีไซเคิลขยะ
เนื่องจากปัจจุบันการเติบโตของเมือง อุตสาหกรรมต่างๆ ขยายตัวอย่างมาก ทำให้เกิดของเสีย ขยะ ตามมามากมายหลายชนิด ต้องหาวิธีจำกัดหรือนำมาใช้ใหม่ ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสของผู้ที่สนใจลงทุนเป็นอย่างมาก ปัจจุบันยังมีผู้ประกอบการด้านนี้น้อย การจัดการของเสียอันตรายบางประเภทถึงกับไม่เพียงพอเลยก็มี หรือแม้แต่ขยะในบ้านเรายังเป็นปัญหาดังเป็นข่าวที่ผ่านมา

8. ธุรกิจพลังงานสีเขียว

พลังงานสีเขียว
จากปัญหาเรื่องน้ำมันในตลาดโลกมีราคาแพงและประเทศไทยต้องเสียเงินตราต่างประเทศในการนำเข้าน้ำมัน ประกอบกับอัตราการใช้น้ำมันของประเทศไทย โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กล่าวคือ ความต้องการน้ำมันดีเซลเป็นปริมาณ 9,928 ล้านลิตร ในปี พ.ศ. 2533 และเพิ่มเป็น 18,273 ล้านลิตร ในปี พ.ศ. 2547 หรือเพิ่มขึ้นด้วยอัตราเฉลี่ยร้อยละ 4.5 ต่อปี การส่งเสริมและสนับสนุนใช้น้ำมันพืชซึ่งเป็นผลิตผลทางการเกษตรที่สามารถผลิตได้เองในประเทศมาใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทน เป็นการรักษาเงินตราต่างประเทศ สร้างความมั่นคงและสามารถพึ่งพาตนเองด้านพลังงานของประเทศ อีกทั้งยังช่วยสร้างตลาดที่มั่นคงให้กับผลผลิตทางการเกษตรอีกด้วย
ธุรกิจน่าสนใจ 2558 เออีซี คือโอกาสทองของการเติบโต ธุรกิจจึงต้องอยู่ในเทรนด์ที่กำลังขยายตัว หรือกำลังจะมา ผู้ที่ทำธุรกิจหรือกำลังจะเริ่มต้นทำธุรกิจส่วนตัว หรือธุรกิจเสริมจากงานประจำ จึงต้องศึกษาพร้อมๆกับลงมือทำเพื่อ ช่วงชิงโอกาสความได้เปรียบ เพราะในปี 2015 ไทยจะเข้าสู่ AEC ทำให้การแข่งขันมีสูงมาก เพราะจะมีสินค้า บริการ แรงงาน จากกลุ่มประเทศสมาชิกเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้การทำธุรกิจต่างๆต้องปรับตัว แต่ทว่า…โอกาสก็มีมาก

แนวทางการประกอบอาชีพอิสระ

แนวทางการประกอบอาชีพอิสระ

ให้สำรวจและเลือกความถนัดของตนเองพร้อมหาข้อมูลเพื่อให้เรามีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับความเข้าใจอาชีพที่จะทำก่อน หากต้องเข้าอบรมก็ต้องพาตัวเองเข้าไปเราจะพบว่าผู้ประกอบอาชีพอิสระจนประสบความสำเร็จมีคุณสมบัติดังนี้
  1. ต้องมีแรงจูงใจ และรักษาระดับแรงจูงไว้ด้วยเพราะโอกาสที่ธุรกิจจะประสบความสำเร็จได้ขึ้นอยู่กับการสร้างแรงจูงใจ
  2. ถนัดสิ่งไหนทำสิ่งนั้น เพื่อให้ผลออกมาดีและมีความสุข
  3. สำรวจเงินในกระเป๋าหากต้องลงทุนเราควรบริหารความเสี่ยงให้น้อยที่สุดอย่างเช่น วางแผนการลงทุนโดยเขียนแผนผังเป็นหัวข้อออกมาให้เห็นชัดเจนถึงรายละเอียดว่าเราจะซื้อหรือลงทุนในด้านใดบ้าง
  4. เลือกทำเล การทำธุรกิจควรเป็นแหล่งชุมชนไว้ก่อนคำนึงถึงการเดินทางที่สะดวก
  5. สุดท้ายคือลงมือทำก้าวแรกของความสำเร็จส่วนใหญ่คือกลัวการเริ่มต้นจากการเคยสอบถามคนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่เขาไม่ได้เก่งเรื่องการวางแผนแต่เป็นการลงมือทำและการปฏิบัติจริงมันส่งผลให้เกิดกระบวนการเรียนรู้และแก้ปัญหาทำให้เราหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดได้ และเกิดความเคยชินในการประกอบธุรกิจ
วันนี้ ไทยอาชีพ.com ขอยกตัวอย่างอาชีพอิสระที่เริ่มต้นง่ายๆสำหรับคนที่ไม่อยากเสี่ยงลงทุนเยอะ และไม่ต้องวางแผนการทำงานให้ยุ่งยากจนเกิดไป คืออาชีพค้าขาย เช่น ขายก๋วยเตี๋ยว

สรุปแผนร้านก๋วยเตี๋ยวแบบเด็ดๆ

กลุ่มเป้าหมาย : เราต้องรู้ก่อนว่าเราจะขายให้ใคร ขาจรหรือขาประจำพนักงานออฟิต นักเรียน นักศึกษา ผู้ที่มาท่องเที่ยวและสำคัญที่ว่าเราจะขายราคาประมาณเท่าไหร่
ทำเล : ขอให้เลือกที่เป็นแหล่งชุมชน หรือหน้าร้านสะดวกซื้อได้ยิ่งดีเงินทุน : เราต้องรู้ตัวเองก่อนว่าเงินทุนในกระเป๋าเรามีเท่าไหร่เพราะเราต้องกำหนดรูปแบบร้านว่าต้องการเป็นร้านแบบรถเข็นหรือ ร้านแบบถาวรและเมื่อตั้งร้านแล้วเราจะมีเงินเหลือสักเท่าไหร่เนื่องจากเราต้องมีเงินที่เตรียมไว้เผื่อเหลือเผื่อขาด
ความอร่อย :อยากให้คนที่คิดจะลงทุนขายคำนึงถึงข้อนี้ให้มากที่สุดเพราะนิสัยคนไทยกินอะไรก็ได้ขอให้อร่อยไว้ก่อนฉะนั้นเราต้องมั่นใจว่าสูตรก๋วยเตี๋ยวของเราถูกปากลูกค้าจริงๆ
วัตถุดิบแหล่งซื้อ :ไม่ยากเลยเราลองซื้อมาทำกินเองและแบ่งปันเพื่อนบ้านชิมหรือต้องการแบบสำเร็จรูปคือติดต่อสอบถามแฟรนไซส์ที่มีอยู่มากมายตามสื่อต่างๆ
ความคิดสร้างสรรค์ :หากเราเป็นร้านใหม่เราต้องทำให้ดีกว่าร้านในย่านนั้นในเรื่องการตกแต่งร้าน การแต่งกาย และการสบริการที่รวดเร็วเมื่อคุณเลือกหรือตัดสินใจอาชีพใดได้แล้วต้องรู้ด้วยว่าตนเองทำใจรับความเสียงได้ในระดับไหนถ้าจิตใจมั่นคงแข็งแรงสู้ไม่มีถอยมีแนวโน้มสูงที่คุณจะมีรายได้เข้ามาถ้าจิตใจยังอ่อนแอประสบการณ์ยังน้อยนิด ก็ค่อยๆเป็น ค่อยๆไปไม่ต้องกังวลและรีบร้อนที่สำคัญอย่ากลัวการเริ่มต้นเมื่อทำจนเคยชินคุณจะพบกับอาชีพที่คุณรู้สึกอิสระ

รวบรวมรายชื่ออาชีพสุดฮอตแห่งปี

    รวบรวมรายชื่ออาชีพสุดฮอตแห่งปี ซึ่งดูจากความต้องการแรงงานในอาชีพนั้นๆ ลงลงประกาศรับสมัคร เปรียบเทียบกับอัตราการจ้างงานจริงในแต่ละเดือน
 แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. อาชีพที่จะต้องมีใบปริญญารับรอง 2. อาชีพที่ไม่ต้องมีใบปริญญา
 อันดับ 1 คือ อาชีพ "บริหารการตลาด" อาชีพฮอตสุดๆ ที่มีอัตราความต้องการ 34,613 อัตรา แต่มีการจ้างงานจริง 11,617 อัตรา ทำให้มีช่องว่างของตำแหน่งถึง 22,996 อัตรา ขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยในปี 2010-2014 อยู่ที่ 10% ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงอยู่ที่ 57.42 ดอลลาร์


บริหารการตลาด

 อันดับ 2 ได้แก่ "นักพัฒนาซอฟต์แวร์, คนเขียนโปรแกรม" ที่มีอัตราความต้องการ 52,700 อัตรา แต่มีการจ้างงานจริง 31,616 อัตรา ทำให้มีช่องว่างของตำแหน่งถึง 21,084 อัตรา ขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยในปี 2010-2014 อยู่ที่ 15% ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงอยู่ที่ 44.66 ดอลลาร์


นักพัฒนาซอฟต์แวร์

ต่อกันที่อันดับ 3 เป็นอาชีพ "พยาบาลวิชาชีพที่ผ่านสอบรับรองมาตรฐาน" มีอัตราความต้องการ 122,922 อัตรา แต่มีการจ้างงานจริง 103,804 อัตรา ทำให้มีช่องว่างของตำแหน่งถึง 19,118 อัตรา ขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยในปี 2010-2014 อยู่ที่ 5% ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงอยู่ที่ 32.51 ดอลลาร์
อันดับ 4 คือ "วิศวกรอุตสาหการ" โดยมีอัตราความต้องการ 26,031 อัตรา แต่มีการจ้างงานจริง 7,880 อัตรา ทำให้มีช่องว่างของตำแหน่งถึง 18,151 อัตรา ขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยในปี 2010-2014 อยู่ที่ 9% ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงอยู่ที่ 38.96 ดอลลาร์


วิศวกรอุตสาหการ

ส่วนอันดับ 5 อาชีพ "ผู้ดูแลเครือข่ายและระบบคอมพิวเตอร์" มีอัตราความต้องการ 35,788 อัตรา แต่มีการจ้างงานจริง 18,734 อัตรา ทำให้มีช่องว่างของตำแหน่งถึง 17,054 อัตรา ขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยในปี 2010-2014 อยู่ที่ 7% ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงอยู่ที่ 35.84 ดอลลาร์
อันดับที่ 6 ตกเป็นของ "นักพัฒนาเว็บไซต์" ซึ่งมีอัตราความต้องการ 30,108 อัตรา แต่มีการจ้างงานจริง 14,616 อัตรา ทำให้มีช่องว่างของตำแหน่งถึง 15,492 อัตรา ขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยในปี 2010-2014 อยู่ที่ 17% ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงอยู่ที่ 28.02 ดอลลาร์
และอันดับที่ 7 คือ อาชีพเกี่ยวกับ "การแพทย์และผู้จัดการบริการสุขภาพ" พบอัตราความต้องการ 27,696 อัตรา แต่มีการจ้างงานจริง 12,626 อัตรา ทำให้มีช่องว่างของตำแหน่งถึง 15,070 อัตรา ขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยในปี 2010-2014 อยู่ที่ 6% ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงอยู่ที่ 43.61 ดอลลาร์
อันดับที่ 8 ตกเป็นของ "นักกายภาพบำบัด" อาชีพที่มีอัตราความต้องการ 24,425 อัตรา แต่มีการจ้างงานจริง 10,880 อัตรา ทำให้มีช่องว่างของตำแหน่งถึง 13,545 อัตรา ขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยในปี 2010-2014 อยู่ที่ 10% ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงอยู่ที่ 38.63 ดอลลาร์


นักกายภาพบำบัด

รองสุดท้าย อันดับที่ 9 อาชีพ "อรรถบำบัด" อ้าวงง!...งง เขาคือนักแก้ไขการพูด เป็นผู้ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการวินิจฉัย การบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยที่มีความผิดปกติทางภาษาและการพูด เช่น พูดไม่ได้ พูดไม่ชัด เสียงผิดปกติ ปากแหว่งเพดานโหว่ ประสาทหูพิการ มีความบกพร่องด้านสติปัญญา ผู้ป่วยที่ถูกตัดกล่องเสียง ผู้ป่วยสมองพิการ สำหรับในต่างประเทศอาชีพนี้ มีอัตราความต้องการ 15,113 อัตรา แต่มีการจ้างงานจริง 7,112 อัตรา ทำให้มีช่องว่างของตำแหน่งถึง 8,001 อัตรา ขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยในปี 2010-2014 อยู่ที่ 5% ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงอยู่ที่ 34 ดอลลาร์
มาที่อาชีพอันดับสุดท้าย "ผู้จัดการฝ่ายขาย" อาชีพอันดับ 10 ที่มีอัตราความต้องการ 28,589 อัตรา แต่มีการจ้างงานจริง 22,280 อัตรา ทำให้มีช่องว่างของตำแหน่งถึง 6,309 อัตรา ขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยในปี 2010-2014 อยู่ที่ 8% ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงอยู่ที่ 51.98 ดอลลาร์
สำหรับอาชีพที่ไม่ต้องมีใบปริญญาในปี 2558 มีทั้งหมด 8 อาชีพ คือ 
1. อาชีพ "คนขับรถบรรทุก, รถพ่วงและรถแทรกเตอร์" พบมีอัตราความต้องการ 242,400 อัตรา แต่มีการจ้างงานจริง 131,902 อัตรา ทำให้มีช่องว่างของตำแหน่งถึง 110,498 อัตรา ขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยในปี 2010-2014 อยู่ที่ 9% ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงอยู่ที่ 18.37 ดอลลาร์


คนขับรถบรรทุก

อันดับ 2 เป็น "คนจัดแสดงสินค้า" อาชีพที่มีอัตราความต้องการ 20,808 อัตรา แต่มีการจ้างงานจริง 6,126 อัตรา ทำให้มีช่องว่างของตำแหน่งถึง 14,682 อัตรา ขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยในปี 2010-2014 อยู่ที่ 5% ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงอยู่ที่ 13.11 ดอลลาร์


คนจัดแสดงสินค้า

อันดับที่ 3 คือ "เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล" มีอัตราความต้องการ 7,287 อัตรา แต่มีการจ้างงานจริง 2,079 อัตรา ทำให้มีช่องว่างของตำแหน่งถึง 5,208 อัตรา ขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยในปี 2010-2014 อยู่ที่ 4% ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงอยู่ที่ 11.66 ดอลลาร์
ต่อกันที่ "ตัวแทนฝ่ายขาย" อาชีพอันดับ 4 มีอัตราความต้องการ 18,547 อัตรา แต่มีการจ้างงานจริง 14,802 อัตรา ทำให้มีช่องว่างของตำแหน่งถึง 3,745 อัตรา ขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยในปี 2010-2014 อยู่ที่ 7% ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงอยู่ที่ 35.59 ดอลลาร์
อันดับที่ 5 คือ "ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ" ที่มีอัตราความต้องการ 5,286 อัตรา แต่มีการจ้างงานจริง 2,534 อัตรา ทำให้มีช่องว่างของตำแหน่งถึง 2,752 อัตรา ขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยในปี 2010-2014 อยู่ที่ 7% ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงอยู่ที่ 49.86 ดอลลาร์


ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ

ส่วนอันดับที่ 6 เป็นอาชีพ "เวชระเบียน" ซึ่งมีอัตราความต้องการ 9,224 อัตรา แต่มีการจ้างงานจริง 7,332 อัตรา ทำให้มีช่องว่างของตำแหน่งถึง 1,892 อัตรา ขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยในปี 2010-2014 อยู่ที่ 6% ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงอยู่ที่ 16.81 ดอลลาร์




วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2558

7 อาชีพเสริมทำที่บ้าน

   
    อาชีพเสริม ที่จะนำเสนอ 7 อาชีพนี้ จะแบ่งเป็น 2 ประเภท โดย 3 อาชีพแรก เป็นอาชีพเสริม ที่ง่ายๆ ทุกคนทำได้ ไม่จำเป็นต้อง มีความรู้ ความเชี่ยวชาญมาก่อน เริ่มต้นได้ง่าย ใครๆ ก็ทำได้ ส่วน 4 อาชีพหลังนั้น เป็นอาชีพเสริม ที่จำเป็นต้องใช้ ความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะ ในบางด้าน ซึ่งอาจจะรวมถึง การใช้ Computer การใช้ภาษาอังกฤษ การขีดๆ เขียนๆ และการถ่ายรูป

     1. งานฝีมือ
อาชีพเสริม ที่สามารถเริ่มต้นได้ที่บ้าน สุดแสนจะ Classic คือ การทำงานฝีมือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เย็บปักถักร้อย ทำสร้อยลูกปัด หล่อเทียนหอม และอื่นๆ อีกมากมาย เป็นอาชีพเสริม ที่ง่ายๆ มีคนสอนทำอีกต่างหาก ถ้าหากว่าคุณทำไม่เป็น และมีการรับซื้อทุกชิ้น ที่คุณทำได้สำเร็จ
เป็นอาชีพเสริม แบบทำที่บ้าน ที่น่าสนใจมาก เพราะแทบไม่ต้องลงทุน เพียงแค่ลงเวลา ลงแรง แถมปราศจากความเสี่ยง อีกต่างหาก ซึ่งทำรายได้เพิ่ม ให้กับเราได้ หลายพันบาท ต่อเดือน อย่างสบายๆ
   
    2. เก็บขวด กระดาษ หรือของเก่าที่บ้านมาขาย
อาชีพเสริม ที่บางคนมองว่า ไม่น่าพิสมัย นั่นคือ การเก็บของที่เหลือใช้ หรือของที่ต้องทิ้งแล้ว เช่น ขวด กระดาษ หรือของเก่าที่มีอยู่ในบ้านมาขาย เป็นสิ่งที่สามารถ ทำรายได้ให้กับเรา โดยที่เราไม่ต้องลงทุน ลงแรงอะไรเลย เพราะว่ามันก็เป็นสิ่งที่เรา ไม่ได้ใช้ประโยชน์ จากมันอยู่แล้ว หรือบางครั้งจะต้องทิ้งมันลงขยะ ไปฟรีๆ ด้วยซ้ำ การนำมันมาขาย จะช่วยให้เรา มีรายได้กลับมา อย่างน้อยๆ เดือนละ 300-500 บาท เลยทีเดียว
  
    3. รับพิมพ์งาน หรือคีย์ข้อมูล
นี่เป็น อาชีพเสริม ที่ทำที่บ้านได้ แบบสุดท้ายสำหรับ ประเภท ไม่ต้องการความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง นั่นคือ การรับพิมพ์งาน หรือคีย์ข้อมูล ซึ่งเหมาะสำหรับ คนที่พิมพ์เอกสาร ได้อย่างคล่องแคล่ว ว่องไว ซึ่งปกติแล้ว การพิมพ์งาน จะมีค่าแรงอยู่ที่ หน้าละ 13-15 บาท ส่วนการคีย์ข้อมูลนั้น จะมีค่าแรงอยู่ที่ แผ่นละ 3-5 บาท รวมๆ แล้ว ถ้าทำอย่างเต็มที่ เดือนๆ หนึ่ง น่าจะทำได้ถึง 4,000-5,000 บาท ได้โดยไม่ยาก
  
   4. รับงานจาก Website ที่ชื่อ elance.com
อาชีพเสริมที่ทำที่บ้าน โดยที่ใช้ความรู้ ความสามารถเฉพาะทาง แบบแรกที่จะนำเสนอ คือ การรับงานจาก elance.com ซึ่งเป็น Website ที่นายจ้าง กับ Freelance มาเจอกัน โดยงานที่มีการจ้าง ผ่าน elance.com จะมีหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น การเขียน Programme การทำ Application บนมือถือ การแปลเอกสาร การออกแบบ วาดเขียนต่างๆ เขียนแผนธุรกจ เขียนแผนการตลาด หรืองานเอกสารอื่นๆ ก็มี รายได้ที่เกิดขึ้น ก็แล้วแต่ การตกลงกับนายจ้าง
  
   5. เขียนบทความตามที่ Website ชื่อ ehow.com ต้องการ
หลังจากที่เราได้รู้เรื่องราวของ elance.com ไปแล้ว ซึ่งบางทีเราอาจจะแค่ มีความรู้เรื่องภาษาอังกฤษ แต่ไม่สามรถ ทำในสิ่งที่นายจ้างใน elance.com ต้องการ แต่เราอาจจะมีความรู้ เรื่องการออกกำลังกาย การลดน้ำหนัก การตกแต่งบ้าน การทำอาหาร หรือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับ Lifestyle อื่นๆ ทางเลือกที่จะเขียนบทความ ตามที่ ehow.com ต้องการ ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวนัก โดยเราจะได้ค่าตอบแทน ในการเขียนบทความอยู่ที่ 450-900 บาท ต่อ 1 บทความ ซึ่งก็เป็นตัวเลข ที่ไม่น้อยเลย
    
   6. เขียน Blog หรือเขียน Review สินค้า
ถ้าคุณเป็นคนนึง ที่ชื่นชอบการเขียน Diary การเขียน Blog อาจจะเป็นทางเลือกที่ดี ในการทำเงินให้กับคุณได้ คุณอาจจะมีการแนะนำสินค้า ที่คุณเคยใช้ ผ่านทาง Blog และทำเป็น Affiliated Marketing ไปในตัว ซึ่งก็เป็นการทำในสิ่งที่คุณชื่นชอบ และยังได้เงินอีกต่างหาก
  
   7. รับถ่ายรูปติดบัตร
อาชีพเสริมทำที่บ้าน ตัวสุดท้ายที่เราจะแนะนำ คือ การรับถ่ายรูปติดบัตร จะเห็นได้ว่า ถ้าไปถ่ายรูป 1  หรือ 2 นิ้ว เพื่อนำไปติดบัตร หรือสมัครงาน จะต้องเสียเงินครั้งละ มากกว่า 120 บาท ซึ่งจริงๆ แล้วค่าอัดรูป อาจจะไม่ถึง 10 บาท เลยด้วยซ้ำ หากคุณเป็นคนนึงที่ชื่นชอบ การถ่ายรูป และมีกล้อง SLR อยู่ที่บ้าน ทำไมถึงไม่ลอง รับถ่ายรูปติดบัตรดูล่ะ อาจจะคิดโหลดละ 60 บาท ก็ได้ แค่นี้คนแถวบ้าน ก็จะมาถ่ายรูปกับคุณมากมาย อย่างแน่นอน

10 อาชีพที่น่าสนใจในปัจจุบัน


     ถ้าวันนี้คุณมีฝีไม้ลายมือ ในการถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่ ในวิชาที่สำคัญๆ เช่น ภาษาอังกฤษ หรือคณิตศาสตร์ การสอนพิเศษก็ดูจะเป็น อาชีพเสริมที่เหมาะกับคุณ เป็นอย่างมาก เพราะมันไม่ต้องใช้ลงทุนแม้แต่น้อย เพียงแค่ใช้ความรู้ และทักษะที่คุณมีอยู่แล้ว ในปัจจุบัน อาชีพ Tutor อาจจะลามมาถึง การสอนพิเศษ ในระดับมหาวิทยาลัยแล้วด้วย ซึ่งให้รายได้ที่มากกว่า อาจจะได้ถึง ชั่วโมงละ 500-1,000 บาท เลยทีเดียว
  1. สอนพิเศษ
ถ้าวันนี้คุณมีฝีไม้ลายมือ ในการถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่ ในวิชาที่สำคัญๆ เช่น ภาษาอังกฤษ หรือคณิตศาสตร์ การสอนพิเศษก็ดูจะเป็น อาชีพเสริมที่เหมาะกับคุณ เป็นอย่างมาก เพราะมันไม่ต้องใช้ลงทุนแม้แต่น้อย เพียงแค่ใช้ความรู้ และทักษะที่คุณมีอยู่แล้ว ในปัจจุบัน อาชีพ Tutor อาจจะลามมาถึง การสอนพิเศษ ในระดับมหาวิทยาลัยแล้วด้วย ซึ่งให้รายได้ที่มากกว่า อาจจะได้ถึง ชั่วโมงละ 500-1,000 บาท เลยทีเดียว
  2. เล่นดนตรีตามสถานบันเทิง
หากคุณเป็นคนหนึ่ง ที่รักในเสียงดนตรี และมีเสียงร้องที่ดี หรือเล่นกีตาร์เก่ง คุณก็สามารถฟอร์มวงดนตรีของตัวเอง และไปเล่นตาม ร้านนั่งชิวต่างๆ หรือแม้แต่ผับก็ตาม รายได้ก็ค่อนข้างจะดี และยิ่งคุณรักในเสียงดนตรีแล้ว คุณยิ่งจะมีความสุขกับ อาชีพเสริมนี้ อย่างแน่นอน และรายได้ที่เกิดขึ้น ในแต่ละคืน ก็ไม่ขี้ริ้วขี้เหร่ แต่อย่างใด ในเวลาเพียง ชั่วโมงครึ่ง วงของคุณ อาจจะได้สตางค์ถึง 2,000 บาท ซึ่งทำให้ตกแล้ว คืนๆ หนึ่ง คุณอาจจะ สร้างรายได้ถึง 3,000 บาท ได้อย่างสบายๆ
  3. ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
นี่เป็นอีกหนึ่ง อาชีพเสริม ที่คนทำงานรุ่นใหม่ นิยมเป็นอย่างมาก เพราะเพียงแค่คุณ มีเงินทุน บวกกับทักษะ ในด้านการลงทุน แค่นี้คุณก็สามารถทำเงินจาก การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ หรือแม้แต่ลงทุน ซื้อกองทุนรวมก็ยังได้ แต่อาชีพเสริมนี้ จะอันตรายมาก หากว่า คุณไม่มีความรู้ความเข้าใจ เพียงพอที่จะลงทุน และดูแลตัวเอง ให้อยู่รอดได้ โดยไม่เจ๊งไปซะก่อน อย่างไรก็ตาม ขึ้นชื่อว่าการลงทุน ถ้าคุณไม่มีคุณเงินทุนแล้ว อาชีพเสริมตัวนี้ คงจะเป็นไปไม่ได้ ที่จะเริ่มต้นเลย
  4. รับแปลงาน

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่ง ที่เชี่ยวชาญเรื่องภาษาต่างประเทศ แต่คุณไม่ชอบ ที่จะสอน หรือถ่ายทอดความรู้ ให้กับผู้อื่น เพราะคุณอาจจะคิดว่า คุณเป็นคนที่พูดไม่เก่ง หรือไม่สนุก กับการพบปะผู้คน ซักเท่าไหร่ ทางเลือกที่เหมาะกับคุณนั้น คุณอาจจะเลือกอาชีพเสริม รับแปลงาน หรือจะเรียกว่า นักแปล ก็ได้ เพราะคุณก็ไม่ต้องคุยกับใคร แค่อยู่กับ Computer พิมพ์งานอย่างเดียว ซึ่งรายได้ก็ค่อนข้างมากเลยทีเดียว หน้าหนึ่ง อาจจะได้ 300-500 บาท เลยทีเดียว เดือนๆ หนึ่ง อาจจะมีรายได้เพิ่มขึ้น หลักหมื่น ได้อย่าง สบายๆ
  5. ขายของผ่าน Facebook
อาชีพเสริม ประเภทนี้ เป็นแบบงานขาย แบบแรก ที่จะถูกนำเสนอ นั่นคือ การขายของผ่าน Facebook หรือ Website อื่นๆ รูปแบบนี้ เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ในปัจจุบัน ด้วยความที่ เริ่มต้นได้ง่าย แม้จะยากหน่อยในการ Promote แต่ทุนก็ไม่จม เพราะว่า สินค้าที่ขายใน Website นั้น รับเงินสด และสามารถเลือกที่จะ Pre-Order ได้อีกต่างหาก เพราะฉะนั้น มันไม่มีความจำเป็นที่ต้อง ไปซื้อสินค้ามา Stock ไว้มากๆ แต่อาจจะเจอความยุ่งยาก ก็เพียงแค่ การส่งสินค้า ไปให้กับลูกค้านั่นเอง
  6. ขายเสื้อผ้าในวันหยุด
อีกอาชีพเสริมหนึ่ง ที่อาจจะลดความนิยมลง เมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อก่อน แต่ก็ยังมีคนให้ความสนใจ และเข้าๆ ออกๆ กับการทำอาชีพเสริมนี้เสมอ คือ การขายเสื้อผ้า หรือสินค้าอื่นๆ ในวันหยุด อาชีพเสริมนี้ อาจจะต้องใช้เงินลงทุน มากกว่ารูปแบบอื่นๆ เพราะต้องจมไปกับ หน้าร้าน และ Stock สินค้า ของร้านคุณ แต่ถ้าคุณตั้งใจกับมัน และเลือกสินค้ามาขาย ได้ตรงใจคนซื้อ คุณอาจจะพัฒนา อาชีพเสริมนี้ ให้กลายเป็น ธุรกิจ ได้เลยทีเดียว
  7. ขายประกัน
หลายต่อหลายคน อาจจะมองว่า อาชีพเสริม ชนิดนี้ ค่อนข้างจะน่ากลัว สำหรับคนรอบข้าง เพราะว่าต้องไปตื้อ ไปง๊อ ให้เพื่อนๆ หรือญาติของเรา มาซื้อประกันกับเรา แต่สำหรับในปัจจุบัน ที่การซื้อประกันนั้น คนทำงานทั่วไปมองว่า เป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง แถมยังสามารถหักลดหย่อนภาษี ได้อีกต่างหาก เพราะฉะนั้น หากเพื่อนๆ ญาติๆ ที่เป็นคนทำงานของคุณ สามารถเลือกได้แล้ว แทนที่จะจ่ายเงินให้กับคนอื่นๆ เพราะยังไงเสีย เค้าก็ต้องซื้อประกันอยู่แล้ว เปลี่ยนมาจ่ายให้กับคุณ ก็คงจะดีกว่าอย่างแน่นอน เพราะสนับสนุนเพื่อนฝูงได้ด้วย
  8. ขายบัตรเครดิต หรือบัตรเงินสด
คงจะปฏิเสธได้ยากว่า บัตรเครดิต หรือบัตรเงินสด มีความจำเป็น กับชีวิตประจำวัน ของคนทำงาน ในระดับหนึ่ง เพราะถ้าเราไปซื้อของ ซื้อสินค้า ที่มีราคาเป็นหมื่น เป็นแสน มันคงไม่สะดวก ถ้าต้องพกเงินสดมหาศาล ไปซื้อสินค้า เสี่ยงกับการถูกปล้น หรือทำงานตกหายอีกต่างหาก อาชีพขายบัตรเครดิต จึงเกิดขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวก ให้กับคนที่อยากจะสมัครบัตรเครดิต โดยหากมีคนสมัครบัตรเครดิตกับคุณใบหนึ่ง อาจจะได้รายได้ใบละ 300-1,000 บาท เลยทีเดียว
  9. ทำงานฝีมือ
อาชีพเสริม อีกแบบหนึ่ง คือ มีคนสอนให้คุณทำ ว่าคุณทำยังไง ซึ่งอาชีพเสริมแรก ในรูปแบบนี้ ที่เราจะนำเสนอ คือ การทำงานฝีมือ ไม่ว่าจะเป็นการเย็บปักถักร้อย หรืองานฝีมืออื่นๆ แม้ว่าจะเหมาะกับผู้หญิงมากกว่า แต่ถ้าคุณผู้ชายอยากจะลองทำดู ก็ไม่ต้องเคอะเขิน สามารถลองได้เลย เพราะว่ามีคนพร้อมจะสอน และป้อน Order ให้คุณด้วย
  10. ทำธุรกิจ MLM
อาชีพเสริมที่น่าสนใจ อย่างสุดท้าย คือ การทำธุรกิจ MLM ซึ่งก็เป็นแบบที่มีคนสอนเช่นเดียวกัน  หลายต่อหลายคนอาจจะมีทัศนคติที่ไม่ดี กับการทำธุรกิจ MLM หรือธุรกิจเครือข่าย เพราะเคยเจอเพื่อนมาตื๊อ ง๊อ ขอ หรือขายสินค้าให้กับคุณ แต่ถ้าคุณเข้ามาศึกษาธุรกิจนี้ให้ดี อาจจะเห็นความสวยงามของธุรกิจ และพบว่า ที่เคยเจอนั้น อาจจะไม่ใช่ พวกมืออาชีพ หลายต่อหลายครั้ง ก็จะเห็นได้ว่า รูปแบบการนำเสนอ จะเน้นไปที่การทำเครือข่ายสีขาวมากกว่า นั่นคือ ทำแล้วต้องไม่เสียเพื่อน เพราะว่าถ้าทำ MLM แล้วรวย แต่สุดท้ายไม่เหลือใคร คงจะไม่ดีอย่างแน่นอน

วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558

อาชีพในฝัน

        อาชีพ เป็น รูปแบบการดำรงชีพในสังคมมนุษย์ปัจจุบัน อาชีพเป็นหน้าที่ของบุคคลในสังคม การที่บุคคลประกอบอาชีพจะได้มาซึ่งค่าตอบแทน หรือ รายได้ เพื่อใช้จ่ายในการดำรงชีวิต
       ลักษณะอาชีพ
อาชีพที่จำเป็นต้องความรู้ความสามารถเฉพาะด้านเรียกว่า วิชาชีพ เช่น วิศวกร แพทย์ พยาบาล ทนายความ และอาชีพที่ถูกกฎหมายและศีลธรรม เรียกว่า สัมมาชีพ เช่น ค้าขาย ส่วนบางอาชีพที่ผิดกฎหมาย เรียกว่า มิจฉาชีพ เช่น โจร  
อาชีพอาจมีรายได้ต่างๆกันไป ลักษณะอาชีพที่เป็นลูกจ้างจะได้ค่าตอบแทนในรูปแบบเงินเดือน อาชีพค้าขายหรือประกอบกิจการส่วนตัวหรือ การลงทุนจะได้ค่าตอบแทนในรูปแบบ กำไร